เมื่อวันอังคารที่ 24 มิถุนายน 2568 คุณวรชิต รัตนจินดา เลขาธิการสมาคมฯ และคุณธนัท  ตาตะยานนท์ กรรมการบริหารสมาคมฯ ได้เป็นผู้แทนสมาคมฯ เข้าร่วมประชุมเชิงปฏิบัติการแนวทางแก้ปัญหาการจราจรท่าเรือแหลมฉบัง โดยได้รับเกียรติจาก ศาสตราจารย์ ดร. รุธิร์ พนมยงค์ กรรมการ การท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) เป็นประธานการประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาการจราจรในพื้นที่ท่าเรือแหลมฉบัง ในวันดังกล่าวทางการท่าเรือฯ ได้เปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมการประชุมได้ร่วมแสดงความคิดเห็น เพื่อนำข้อคิดเห็นที่ได้ไปขับเคลื่อนเพื่อหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาอย่างเป็นรูปธรรมและยั่งยืนต่อไป นอกจากนี้การท่าเรือฯ ได้มีการผลักดันมาตรการเข้มในการจัดสรรพื้นที่ โดยนำระบบไอทีเข้ามาช่วยแก้ไข ปัญหาจราจรแออัดภายในพื้นที่ ท่าเรือแหลมฉบัง โดยแบ่งออกเป็น 3 มาตรการ ประกอบด้วย

• มาตรการระยะเร่งด่วน

o จัดพื้นที่ลาน 70 ไร่ และ  22 ไร่ สำหรับให้รถบรรทุกที่รอเข้าท่าเทียบเรือ

o เพิ่มพื้นที่ภายในศูนย์การขนส่งสินค้าทางรถไฟ เพื่อวางตู้สินค้าขาออก

o ประสานงานศุลกากรเพื่ออนุญาตนำตู้สินค้าขาเข้ามาจัดเก็บนอกเขตท่าเรือเป็นการชั่วคราว

o บังคับใช้ Truck Queue 100% ภายในเดือนสิงหาคม 2568 เพื่อบริหารจัดการรถบรรทุกให้กระจายตัว

o พัฒนา Mobile Application สำหรับแก้ไขปัญหาด้านการจราจร

o ขอความร่วมมือหน่วยงานราชการต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ให้เพิ่มระยะเวลาการปฎิบัติงานให้ยาวขึ้น

o เร่งเปิดช่องทางเข้า-ออก เพิ่มเติม (ปัจจุบันมีข้อจำกัดด้านกฎหมาย) ปรับเปลี่ยนช่องทางเข้า – ออก ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ จราจรในแต่ละช่วงเวลา

o จัดเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอำนวยความสะดวกตลอด 24 ชม.

o จัดห้องสุขาเคลื่อนที่ภายในพื้นที่เพิ่มเติมจำนวน 12 จุด (24 ห้อง) เพื่อให้บริการได้อย่างทั่วถึง

• มาตรการคู่ขนาน

o เตรียมพื้นที่ 83 ไร่ (นอกเขตรั้วศุลกากร) เป็นจุดพักคอย ของรถบรรทุกตู้สินค้าก่อนเข้าสู่ท่าเทียบเรือ

o ปรับพื้นที่ว่างเปล่าบริเวณศูนย์การขนส่งตู้สินค้าทางรถไฟ เป็นพื้นที่สำรองในการจอดรถบรรทุก

• มาตรการระยะยาว

o จัดทำ Master Plan เพิ่มโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อบริหารจัดการพื้นที่ให้สอดคล้องกับปริมาณการขนส่งตู้สินค้าเพิ่มขึ้น

o เร่งรัดการพัฒนาโครงการท่าเทียบเรือแหลมฉบังระยะที่ 3 ให้เปิดบริการได้ภายใน 2570

o ปรับโครงสร้างค่าภาระให้เหมาะสม เพื่อบริหารตู้ตกค้างได้อย่างมีประสิทธิภาพ

และเพื่อเป็นการเร่งแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน ที่ประชุมฯ มีมติให้เร่งขับเคลื่อน 3 ประเด็นหลักโดยทันที ได้แก่

• การผลักดันระบบ LCP Truck Queue ให้สามารถใช้งานได้ตามกำหนด
• การบำรุงรักษาความลึกของร่องน้ำให้ได้ระดับความลึกตามที่กำหนดในแต่ละ Basin เพื่อสนับสนุนห่วงโซ่โลจิสติกส์การนำเข้าส่งออก และ
• การเร่งจัดหาพื้นที่วางตู้สินค้าชั่วคราวเพื่อบรรเทาสถานการณ์ในระยะนี้โดยเร็วที่สุด

อย่างไรก็ตาม กทท. หวังว่าความร่วมมือจากทุกภาคส่วนจะเป็นกลไกสำคัญในการแก้ไขปัญหาจราจรและการบริหารตู้สินค้าอย่างเป็นระบบ ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนด้านเวลา เพิ่มความคล่องตัวในการขนส่งให้กับผู้ประกอบการทุกฝ่าย อันจะเป็นประโยชน์ต่อการเติบโตของเศรษฐกิจในพื้นที่และประเทศโดยรวม

ผู้เข้าร่วมการประชุมประกอบด้วย คุณเกรียงไกร ไชยศิริวงศ์สุข ผู้อำนวยการ กทท. เรือโท ยุทธนา โมกขาว ผู้อำนวยการ ทลฉ. ผู้บริหาร และพนักงาน กทท. ผู้ประกอบการท่าเทียบเรือ ผู้นำเข้าส่งออก ผู้ประกอบการขนส่งทางบก ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งภาครัฐและเอกชน เช่น กรมการขนส่งทางบก สมาคมเจ้าของและตัวแทนเรือกรุงเทพ (BSAA) สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย ฯลฯ การประชุมจัดขึ้น ณ โรงแรม แกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ ลุมพินี กรุงเทพฯ และผ่านระบบออนไลน์